เรียบเรียงข้อมูลโดยกระปุกดอทคอม การทำงานของระบบสมองถือเป็นเรื่องสำคัญที่จะละเลยไม่ได้ เพราะสมองมีหน้าที่ควบคุมและสั่งการการเคลื่อนไหว พฤติกรรม และรักษาสมดุลภายในร่างกาย ด้วยเหตุนี้เองกระปุกดอทคอมจึงขอเสนอวิธีการดูแลสมองให้ทำงานอย่างมีประสิทธิภาพ ถ้าอยากจะรู้ว่ามีวิธีใดบ้างแล้วล่ะก็ ตามมาดูกันเลย 1. ออกกำลังกายซะบ้าง นักวิทยาศาสตร์หลายต่อหลายท่านเห็นตรงกันว่าการออกกำลังกายอย่างน้อย 30 นาทีทุกวัน จะเป็นส่วนสำคัญที่ส่งผลดีต่อระบบสมอง ขณะที่หัวใจและปอดก็จะแข็งแรงตามไปด้วย ซึ่งก็เท่ากับว่าหากสมองแข็งแรง ก็จะทำให้ส่วนอื่น ๆ ของร่างกายแข็งแรงตามไปด้วย 2. ทานอาหารที่มีคุณค่าทางโภชนาการ คุณรู้หรือไม่ว่า การได้รับพลังงานไม่ว่าจะมากหรือน้อยเกินไปส่งผลต่อการทำงานของระบบสมอง ดังนั้นแล้วอาหารหรือผลไม้อะไรก็ตามแต่ที่คุณทาน ก็ควรจะเป็นอาหารที่ให้ไฟเบอร์สูง และให้ปริมาณของไขมันและโปรตีนอย่างพอเหมาะ ลดการทานอาหารที่ไม่ก่อให้เกิดประโยชน์ ก็จะทำให้การทำงานของระบบสมองมีประสิทธิภาพมากยิ่งขึ้น 3. ไม่ตามใจปาก การตามใจปาก ทานอาหารอย่างไม่ดูคุณค่าทางโภชนาการจะทำให้สมองทำงานช้าลง ดังนั้นจึงควรที่จะควบคุมการทานอาหารอย่างพอเหมาะ เพราะหากควบคุมอาหารที่มากเกินความจำเป็น ก็จะส่งผลเสียทำให้เกิดภาวะเบื่ออาหาร ซึ่งไม่เป็นผลดีต่อการทำงานของสมองอย่างมาก 4.

  1. 6 วิธี ดูแลสมอง บำรุงสมองและปกป้องสมองวันนี้ ก่อนสมองเสื่อม!
  2. 9 วิธีดูแลสมอง แบบง่ายๆ ให้ฉลาดและความจำดี แม้จะเข้าสู่วัยชรา!! | MThai.com | LINE TODAY

6 วิธี ดูแลสมอง บำรุงสมองและปกป้องสมองวันนี้ ก่อนสมองเสื่อม!

ส่งเสริมช่วยเหลือผู้ป่วยให้ลุกขึ้นนั่ง 6. ในกรณีที่ผู้ป่วยนอนพักบนเตียงที่บ้าน ผู้ดูแล/ญาติควรช่วยให้ผู้ป่วยออกจากเตียงให้ได้เร็วที่สุดเมื่ออาการผู้ป่วยคงที่ เมื่อแรกลุกนั่ง ญาติควรประคองผู้ป่วยด้านซีกที่อ่อนแรง โดยประคองหลังและศีรษะอย่างค่อยเป็นค่อยไป ให้ผู้ป่วยเรียนรู้ที่จะนั่งคนเดียว โดยพิงพนักหัวเตียงก่อน แล้วค่อยนั่งห้อยขาข้างเตียง โดยวางเท้าบนที่รองเท้าที่มั่นคง และช่วยรักษาสมดุลของร่างกาย โดยฝ่ามือของแขนที่อ่อนแรงให้วางราบบนเตียง ญาติ หรือผู้ดูแลต้องอดทนและให้กำลังใจผู้ป่วย ให้ฝึกทำอย่างสม่ำเสมอ จนในที่สุด ผู้ป่วยสามารถลุกขึ้นเองได้ 7. เมื่อผู้ป่วยเริ่มรักษาการทรงตัวได้ ช่วยเหลือและสอนให้ผู้ป่วยลุกนั่งห้อยขาเองได้ โดยให้ผู้ป่วยจับแขนข้างที่อ่อนแรงวางไว้บนหน้าอก ขาข้างปกติสอดใต้เข่าข้างที่อ่อนแรง ซึ่งเป็นข้างลงข้างเตียง ใช้มือ ข้างปกติยันเตียงไว้ ยกศีรษะ และไหล่ขึ้น พร้อมกับดันตัวลุกนั่ง 8.

วิธีฝึกสมองให้ไว ด้วยการเรียนรู้สิ่งต่างๆ ในชีวิตประจำวัน ในบางครั้ง "วิธีฝึกสมองให้ไว" เราก็ไม่จำเป็นที่จะต้องใช้วิธียาก ๆ เสมอไป เพียงแค่เราลองเปลี่ยนวิธีการดำเนินชีวิตประจำวันใหม่ เช่น การเปลี่ยนมาลองใช้มือข้างที่ไม่ถนัด การเรียนรู้คำศัพท์ใหม่ๆ ที่เราเห็นตามป้ายบนท้องถนน และการฝึกคิดวิเคราะห์จากการดูซีรีส์/ภาพยนตร์ เป็นต้น นอกจากเราจะได้พัฒนาสมองให้ไวขึ้นแล้ว ยังเป็นการฝึกความจำ ความคิดสร้างสรรค์ และความสามารถในการทำความเข้าใจสิ่งต่าง ๆ ให้ง่ายยิ่งขึ้นตามไปด้วย ซึ่งจะมีวิธีไหนบ้างที่น่าสนใจ ตามมาดูกันได้เลย 1. ลองใช้มือข้างที่ไม่ถนัด ช่วยฝึกสมอง พัฒนสมาธิ เชื่อว่าหลาย ๆ คนจะต้องเคยได้ยินกันอยู่บ่อย ๆ อย่างแน่นอนว่า การลองใช้มือข้างที่ไม่ถนัดเป็น วิธีฝึกสมองให้ไว อีกวิธีหนึ่งที่ได้ผลดีมาก ไม่ว่าจะเป็น การแปรงฟัน การเขียนหนังสือ และการวาดภาพ ด้วยมือข้างที่ไม่ถนัด ซึ่งในช่วงแรกที่เราลองทำกันกิจกรรมต่าง ๆ ในชีวิตประจำวันด้วยมือข้างที่ไม่ถนัด อาจจะรู้สึกไม่ชินและลำบาก แต่เมื่อเราฝึกควบคุมการทำงานของร่างกายเป็นประจำ ก็จะให้สมองในซีกที่ไม่ค่อยได้ใช้งาน สามารถใช้งานได้อย่างเต็มที่มากขึ้น และยังเป็นการฝึกสมาธิไปในตัวอีกด้วย 2.

วิธีบำรุงสมอง ที่นำมาฝากนี้นอกจากจะทำให้กระบวนการการทำงานของสมองทำงานได้ดีขึ้นแล้ว ยังช่วยป้องกันโรคภัยไข้เจ็บ เช่น ภาวะสมองเสื่อม และโรคอัลไซเมอร์ เพราะสมองเป็นอวัยวะที่คอยสั่งการเพื่อประสานงานระบบภายในร่างกายของเรา ด้วยสาเหตุนี้ เราจึงจำเป็นต้องเพิ่มประสิทธิภาพ และสมรรถนะของสมองเราให้มีความสามารถในการคิด และแก้ไขปัญหาต่างๆให้ดีขึ้น ด้วยการบริหารสมอง หรือกระตุ้นการทำงานของสมองให้มีประสิทธิภาพ ด้วยเคล็ดลับที่นำมาฝากกัน ลองมาดูกันนะคะว่ามีอะไรบ้าง 10 วิธีบำรุงสมอง ทำอย่างไรให้ความจำดี 1. เรียนรู้ภาษาใหม่ เคล็ดลับนี้เป็นเคล็ดลับที่นักวิทยาศาสตร์เห็นด้วยมากที่สุด เพราะไม่เพียงแค่ช่วยพัฒนาทักษะทางด้านสังคมของคุณ แต่การเรียนรู้ภาษาใหม่ จะทำให้สมองเรียนรู้วิธีการทำงานที่พัฒนามากขึ้น สมองจะมีระบบเส้นประสาทใหม่เพิ่มขึ้น ซึ่งจะมีผลต่อทักษะทางปัญญา และยังพบว่าสามารถลดความเสี่ยงของโรคอัลไซเมอร์และภาวะสมองเสื่อมได้ สำหรับผู้ที่สนใจเรียนภาษาเพิ่มเติม แต่ไม่สะดวกที่จะไปเรียนก็สามารถหาเรียนภาษาได้ตามยูทูป หรือเว็บไซต์หรือแอปต่างๆ ที่ให้บริการสอนฟรีได้ 2. เรียนรู้เครื่องดนตรี การฟังเพลงก็เป็นการผ่อนคลายสมอง แต่การเรียนรู้การใช้เครื่องดนตรีจะทำให้คุณพัฒนาทักษะด้านร่างกายและกระบวนการคิดต่างๆได้ดีขึ้น สำหรับคนที่เล่นเครื่องดนตรี จะพบว่าการเล่นดนตรีนั้นช่วยให้ทักษะทางด้านคณิตศาสตร์ดีขึ้น ดังนั้นหากอยากเพิ่มประสิทธิภาพการทำงานของสมองก็ลองคว้ากีต้าร์มาดีด หรือลองกดเปียโน หรือลองเล่นเครื่องดนตรีที่คุณชื่นชอบ แล้วลองเริ่มเล่นดนตรีสักเพลงสองเพลง คุณอาจจะพบว่าสมองของคุณรู้สึกผ่อนคลายมากขึ้น และทำให้สมองสามารถทำงานที่ค้างอยู่นั้นทำงานได้ดีขึ้นอย่างไม่น่าเชื่อ 3.

  • วิธีดูแลผู้ป่วย โรคหลอดเลือดสมองในระยะฟื้นฟู - แพทย์ทางเลือก.com
  • แมว สะ วัน นา
  • Cover เพลง garageband free
  • เปรียบเทียบมาม่า บะหมี่กึ่งสำเร็จรูป รสหมูต้มยำ 60 ก. แพ็ค 6 ซอง | ผลิตภัณฑ์ฮาร์ด
  • วิธี ดูแล สมอง ไขสันหลัง เจริญมาจากเนื้อเยื่อชนิดใด
วิธี ดูแล สมอง คือ

5 วิธีดูแลสมองให้แข็งแรง สมองเป็นอวัยวะในร่างกายที่สำคัญอย่างมาก เปรียบเหมือนกองบัญชาการควบคุมระบบต่าง ๆ ในร่างกายมากมายหลายระบบ จำเป็นต้องได้รับการดูแลอย่างดี รวมไปถึงหมั่นบริหารสมองอยู่เสมอ เพื่อให้สมองแข็งแรงนั้นทำงานอย่างมีประสิทธิภาพ 1. โภชนาการ ดูแลให้ร่างกายได้รับสารอาหารครบถ้วนทั้ง 5 หมู่ ควรหลีกเลี่ยงอาหารที่มีไขมันโคเลสเตอรอลสูง และทานอาหารเช้าทุกวัน เพราะอาหารเช้าจะเป็นตัวช่วยในการรักษาระดับน้ำตาลในเลือดให้คงที่ ซึ่งจะมีผลต่อการทำงานของสมอง 2. พักผ่อนให้เพียงพอ สมอง จำเป็นต้องได้รับการพักผ่อนเช่นเดียวกับส่วนอื่น ๆ ของร่างกาย การพักผ่อนที่ไม่เพียงพอจะส่งผลต่อการทำงานของสมอง ทั้งในด้านการใช้ความคิด และการตื่นตัวของสมอง ร่างกายที่แข็งแรงจำเป็นต้องได้รับการออกกำลังกายที่เหมาะสม เช่นเดียวกับสมองของเรา การใช้สมองในการเรียนรู้สิ่งใหม่ ๆ รวมถึงเกมที่ใช้สมอง เช่น หมากกระดาน เกมคำศัพท์ เกมประเภทตัวเลข ล้วนเป็นการบริหารสมองที่ดีทั้งสิ้น 4. ออกกำลังกาย เพราะคนที่ออกกำลังกายเป็นประจำนั้น จะช่วยให้สมองตื่นตัว และทำให้ความจำดีขึ้น ควรออกกำลังกายให้หัวใจได้สูบฉีดเลือดอย่างเต็มที่ อย่างน้อยสัปดาห์ละ 2-3 ครั้ง การออกกำลังกาย จะมีส่วนช่วยในการทำงานของสมองส่วนของการตัดสินใจ และความจำด้วย 5.

9 วิธีดูแลสมอง แบบง่ายๆ ให้ฉลาดและความจำดี แม้จะเข้าสู่วัยชรา!! | MThai.com | LINE TODAY

วิธี ดูแล สมอง 2

ดูแลผู้ป่วย ภาวะสมองเสื่อม ยังไงดี?

วางแผนการดูแลผู้ป่วย คนในครอบครัวและผู้ดูแลควรมีการวางแผนการดูแลผู้ป่วยร่วมกับแพทย์และผู้เชี่ยวชาญด้านการดูแลผู้สูงอายุในระยะยาว เพื่อให้แน่ใจว่าผู้ป่วยจะได้รับการดูแลที่ถูกต้องเมื่ออยู่ที่บ้าน รวมถึงมีการวางแผนการดูแลที่ครอบคลุม ไม่ว่าจะเป็นด้านการเงิน การปรับปรุงที่อยู่อาศัย การอำนวยความสะดวก และสร้างสิ่งแวดล้อมที่ปลอดภัยสำหรับผู้ป่วย 2. แบ่งหน้าที่ในการดูแลผู้ป่วย นอกจากการวางแผนการดูแลผู้ป่วยกับผู้เชี่ยวชาญแล้ว สมาชิกในครอบครัวและผู้ดูแลจะต้องคำนึงถึงความพร้อมในการดูแลผู้ป่วยของตนเอง ควรมีการแบ่งหน้าที่ในการดูแลผู้ป่วยอย่างเหมาะสม ไม่ควรมอบหมายหน้าที่ให้ใครคนใดคนหนึ่งดูแลผู้ป่วยตลอดเวลา โดยไม่มีการหยุดพัก เนื่องจากอาจก่อให้เกิดความเครียดสะสม ซึ่งอาจส่งผลเสียต่อสุขภาพร่างกายและจิตใจของผู้ดูแลได้ 3. ให้ความรักแก่ผู้ป่วย แม้ว่าคนที่คุณรักอาจมีอาการทรุดลงอย่างต่อเนื่อง จนทำให้ไม่สามารถจดจำเรื่องราวอดีต รวมถึงสูญเสียความสามารถในการคิดและการตัดสินใจ แต่คนในครอบครัวและผู้ดูแลควรพึงระลึกอยู่เสมอว่าคนที่คุณรักยังอยู่ใกล้ๆ และยังต้องการความรักและการดูแล ดังนั้นการแสดงความรัก ความห่วงใย ด้วยการจับมือ การกอด และการพูดคุย จึงเป็นสิ่งสำคัญที่จะช่วยให้กำลังใจซึ่งกันและกัน 4.

หลีกเลี่ยงการใช้อาหารเสริมต่าง ๆ หากใช้อาหารเสริมต่าง ๆ อย่างผิดวิธีและเกินความจำเป็นจะส่งผลเสียต่อสมองอย่างมาก ที่สำคัญยังเป็นการสิ้นเปลืองโดยใช่เหตุ เพราะอาหารเสริมก็เหมือนยาชนิดหนึ่งซึ่งจะส่งผลดีก็ต่อเมื่อร่างกายมีปัญหาหรือร่างกายจำเป็นต้องได้รับเท่านั้น หากร่างกายสมบูรณ์แข็งแรงดีอยู่แล้ว ก็ไม่ควรใช้อาหารเสริมแต่อย่างใด 10. ทำกิจกรรมที่ลับสมอง เพื่อเป็นการเพิ่มรอยหยักให้สมอง เมื่อใดก็ตามที่คุณมีเวลาว่าง ให้ลองหาเกมลับสมองมาเล่นดู ไม่ว่าจะเป็นปริศนาอักษรไขว้ ต่อจิ๊กซอว์ เพราะนอกจากคุณจะได้เพลิดเพลินแล้ว ยังช่วยให้ระบบการทำงานของสมองใช้การได้ดีมากยิ่งขึ้นอีกด้วย ได้รู้วิธีการดูแลบำรุงสมองดี ๆ ทั้ง 10 ข้อนี้แล้ว ก็อย่าลืมนำไปปรับใช้กันด้วยนะจ๊ะ เพื่อจะได้มีสมองที่เต็มไปด้วยประสิทธิภาพและเฉียบแหลมอยู่ตลอดเวลา เคล็ดลับสุขภาพ สุขภาพใกล้ตัว โรคและการป้องกัน คลิกเลย เรื่องที่คุณอาจสนใจ

ดูแลสุขภาพเป็นประจำ การดูแลรักษาสุขภาพและเข้ารับการตรวจสุขภาพจากแพทย์เป็นประจำทุก 6 เดือน เป็นวิธีบํารุงสมองที่จำเป็นเนื่องจากโรคสมองที่เกิดขึ้นมักจะมีสาเหตุใหญ่ๆมาจาก3 โรคที่สำคัญได้แก่ โรคเบาหวาน สภาวะของโรคอ้วน และโรคความดันโลหิตสูง การพบเจออาการความเสี่ยงของโรคร้ายแรงและทำการรักษาอย่างทันท่วงทีก็จะลดความเสี่ยงผลกระทบจากการเกิดโรคสมองเสื่อม และป้องกันไม่ให้สมองถูกทำลาย 4. งดการดื่มสุราและสูบบุหรี่ อีกหนึ่งสาเหตุสำคัญที่ส่งผลกระทบต่อระบบสมองนั่นคือการดื่มสุรา และการสูบบุหรี่จัด 5. นอนหลับพักผ่อนให้เพียงพอ การนอนนั้นจะช่วยทำให้สมองได้พักผ่อนและผ่อนคลาย โดยตลอดทั้งวันสมองจะมีการทำงานอย่างต่อเนื่องการนอนหลับพักผ่อนให้เพียงพออย่างน้อย 8-10 ชั่วโมงก็จะทำให้สมองฟื้นตัวและทำงานได้ดีขึ้นเมื่อคุณตื่น 6. ดื่มกาแฟ จากงานวิจัยต่างประเทศพบว่าคาเฟอีนที่พบในกาแฟนั้นมีส่วนช่วยในการปกป้องสมองและลดความเสี่ยงการเกิดโรคอัลไซเมอร์และโรคความจำเสื่อมได้สูงถึง 30-60 เปอร์เซ็น ดังนั้นการดื่มกาแฟวันละ 2-3 แก้วก็จะส่งผลดีต่อระบบสมอง 7. ทานปลาทะเล น้ำมันปลา จากปลาทะเลนั้นถือมีประโยชน์และเป็นอาหารบำรุงสมองอย่างแท้จริง เพราะมีไขมันที่มีประโยชน์เรียกว่า โอเมก้า 3 ที่มีสรรพคุณดีช่วยเสริมสร้างการทำงานของระบบสมอง 8.

ดูแลตัวเอง โรคเบาหวาน โรคอ้วน และโรคความดันโลหิตสูง เป็น 3 โรคอันตรายที่ส่งผลกระทบต่อสมองโดยตรง ทำให้กระบวนการรับรู้ของสมองแย่ลงจนอาจทำให้เกิดอาการความจำเสื่อมได้ ดังนั้นคุณจึงควรที่จะดูแลตัวเอง หลีกเลี่ยงการสูบบุหรี่ และหลีกเลี่ยงการทานอาหารที่มีไขมันสูง เพื่อบรรเทาไม่ให้สมองถูกทำลายก่อนวัยอันสมควร 5. พักผ่อนให้เพียงพอ การนอนหลับถือว่าเป็นการพักผ่อนที่ดีที่สุดที่ทำให้ร่างกายและสมองได้รับการผ่อนคลายจากการใช้งานมาตลอดทั้งวัน ซึ่งการนอนอย่างน้อยวันละ 8 - 10 ชั่วโมง ก็จะทำให้การทำงานของสมองดีขึ้น และตัวคุณเองก็จะรู้สึกสดชื่นขึ้นเช่นกัน 6. กาแฟช่วยคุณได้ มีการศึกษาพบว่ากาเฟอีนในกาแฟสามารถปกป้องสมองได้ การดื่มกาแฟวันละ 2 - 4 แก้วต่อวัน จะช่วยลดความเสี่ยงในการเกิดโรคอัลไซเมอร์ หรือโรคความจำเสื่อมได้ 30 - 60% เลยทีเดียว 7. ทานปลาบำรุงสมอง ปลาถือเป็นอาหารที่มีคุณค่าทางโภชนาการ ให้ประโยชน์ต่อร่างกายและสมองสูง โดยเฉพาะโอเมก้า 3 ที่อยู่ในเนื้อปลา มีประโยชน์ที่ช่วยเสริมสร้างการทำงานของสมองให้มีประสิทธิภาพมากยิ่งขึ้น 8. ปล่อยตัวไปตามสบาย เครียดมากเกินไปก็ส่งผลทำให้การทำงานและการจดจำของสมองแย่ลงได้ ดังนั้นแล้วจงปล่อยตัวไปตามสบายซะบ้าง ทำจิตใจให้สงบ อย่างเช่น การเล่นโยคะ ก็เป็นอีกตัวเลือกหนึ่งที่น่าสนใจ 9.

Thursday, 14 July 2022
เนอเพลง-นาง-ใน-ดวงใจ